ทริปแรกกะคนน่ารักที่เมืองระยองแบบสองวันหนึ่งคืน เริ่มต้นเดินทางที่ปากน้ำเลยทางไประยองขับไปมอเตอร์เวย์สุดทาง แบบว่าถนัดทางนี้ง่ะ ทีเดียวจบ
“เจดีย์กลางน้ำ”
เจดีย์กลางน้ำถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2416 สมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระยาศรีสมุทรโภคชัยชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เจ้าเมืองระยอง โดยเอาแบบอย่างมาจากพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ที่ใช้เป็นจุดสังเกตว่าใกล้จะถึงเมืองหลวง สมัยนั้นประชาชนเดินทางทางเรือ พระเจดีย์กลางน้ำเปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวเรือทุกลำ และเป็นจุดสังเกตุว่า เมื่อเดินเรือมาถึงก็คือเดินทางมาถึงเมืองระยองแล้ว
เสร็จแล้วก็ถึงเวลาอาหารกลางวันพอดีเลยแวะไปร้านผัดไทยบ้านค่าย (มะขามใหญ่) แต่เกรงใจพี่เขาเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาน่ะ
“สวนศรีเมือง”
สวนศรีเมือง aka เกาะกลางตั้งอยู่กลางเมือง ภายในสวนมีหอพระพุทธอังคีรสเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธอังคีรสซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวระยอง
“วัดป่าประดู่”
สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ภายในวิหารมีพระนอนขนาดใหญ่ ยาว 11.95 เมตร สูง 3.60 เมตร เป็นพระพุทธไสยาสน์ซึ่งประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย (ปกติจะเห็นตะแคงขวาใช่มะล่ะ) เดิมอยู่กลางแจ้ง ต่อมาสร้างวิหารครอบเมื่อปี 2524
“วัดลุ่มมหาชัยชุมพล”
วัดลุ่มเป็นที่ประดิษฐานพระรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินถึง 2 พระองค์ โดยนางทองปานภู่สุวรรณ ได้ฝันไปว่า พระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จมาเข้าฝัน และมีพระราชดำรัสว่าพระองค์ไม่มีที่ประทับ นางทองปานจึงสร้างศาลถวายพร้อมหล่อพระบรมรูปประทับยืนด้วยทองเหลืองสูง 70 ซม. และต่อมาในปี พ.ศ.2503 จึงมีการหล่อพระบรมรูปองค์ใหม่ขนาดเท่าองค์จริงในท่าประทับนั่งสง่างาม บริเวณด้านหน้าของศาลนั้นมีต้นสะตือขนาดใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี ซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ในการกอบกู้เอกสารของพระองค์ โดยกล่าวว่าเมื่อครั้งที่พระองค์ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกจากกรุงศรีอยุธยามาถึงระยอง ในคราวที่ยังทรงพระยศเป็นพระยาวชิรปราการ พระองค์ทรงนำช้างมาผูกไว้ที่ต้นสะตือนี้ และใช้เป็นแหล่งรวบรวมไพร่พล ก่อนที่จะยกทัพไปตีเมืองจันทบุรี และใช้เป็นที่ตั้งมั่นในการกลับมากอบกู้อิสรภาพจนสำเร็จในเวลาต่อมา เดิมทีศาลแห่งนี้มีลักษณะเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2477 ต่อมาได้มีการสร้างศาลหลังใหม่ขึ้นแทนหลังเดิมในปี พ.ศ. 2507 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงจัตุรมุขทีบริเวณต้นสะตือใหญ่แห่งนี้ เพื่อเป็นพระบรมราชนุสรณ์ และสถานที่ที่ให้ประชาชนทั่วไปมาสักการะและน้อมรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของพระองค์

พระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าตาก มีแบบนี้กับแบบพระเอก โดยส่วนตัวคิดว่ารูปนี้น่าจะเหมือนกว่า เพราะพระเจ้าตากถูกฆ่าเพราะโดนว่าเป็นคนจีนไม่ควรปกครองแผ่นดินนี่นะ (จีนแล้วไงว้า)
ใกล้มืดแล้วเด็กน้อยส่งพี่กลับบ้านและนัดกับพี่อีกคนเพื่อนำนาฬิกาที่ฝากซื้อไปให้ ได้อิ่มฟรีเลย แฮ่ๆ
คืนนั้นพักที่ เคียงทะเล รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทเพิ่งเปิดใหม่ กว้างขวาง สะอาด และราคาถูก คืนละ 700 บาท บ้านหลัง 900 บาท
ตื่นเช้ามาแวะเที่ยวที่นึงแถวนั้นก่อนกลับเลยไปเขาแหลมหญ้านี่แหล่ะ
“อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด”
ค่าเข้าประมาณ 30 บาท เข้าไปไม่มีไรเท่าไหร่ ใช้เป็นค่ายลูกเสือมากกว่า ข้างในมีที่พักของอุทยานราคาถูกประมาณ 300-500 บาท
เที่ยวเสร็จหากินมื้อบ่ายๆที่ผัดไทชายคลองก่อนกลับบ้านที่นี่มีทีเด็ดที่น้ำซอสผัดไทยตามแบบชาวระยอง กลิ่นจะคล้ายๆมะขาม หวานอร่อยดี
ต่อไปเป็นกินแล้วบ่นเรื่อยเปื่อย
เมื่อวาน (23 ก.ค. 56) ไปเที่ยวที่หาดแม่รำพึงหาของทะเลกินเรื่อยเปื่อย พร้อมระลึกความหลังเมื่อวัยเยาว์มาแรลลี่แล้วพักแถวนี้มีร้าน “แป๊ะสูน” อร่อยมาก (เมนูเด็ดคือปลาเก๋าทอดน้ำปลาตัวเป้ง) ที่ ก้นอ่าว ตรงนี้ผมว่าเป็นทำเลดีนะ คนพลุกพล่านน้อย แต่ที่ตรงนี้ร้านเจ๊งแล้วเจ๊งอีก จากแป๊ะสูนมาเป็นน้องอายก็ยังอร่อยอยู่ และมะวานล่าสุดกลายเป็นร้านชมวิวไปซะแล้ว

ต้มยำปลาเก๋า หม้อนี้ 400 ปลามีชิ้นเล็กๆอยู่ประมาณ 5-6 ชิ้น น้ำรสจืดมาก สงสัยพอสั่งไม่เผ็ดแล้วไปไม่เป็น

ปูนึ่งเห็นว่าขากลับไม่แวะอ่างศิลา เลยเอานี้เลยละกัน โลละ480 ตอนสั่งถามแล้ว ปูทะเลป่าว คนขายบอก ปูทะเล พอได้เปิดมาเป็นอย่างนี้ ถามกลับปูทะเลเหรอ คนขายยังตอบอย่างมั่นใจ “ปูทะเลครับ” ไม่รู้มันมึน หรือตั้งใจโกง
สรุปร้านนี้ อย่าไปกินครับ โดนโขกอย่างแรง รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 1900 บาทไปกินโซนที่ร้านเยอะๆที่รถจอดกินแน่นๆดีกว่า แล้วค่อยมานั่งแอ่วแถวนี้ก็ได้